ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันสร้างลานเจดีย์และองค์พญานาคทางเข้าพระเจดียศรีทศพลบรมไตรโลกนาถ ณ วัดน้ำเขียว (บุญช่วยสามัคคีธรรม) ต.กองทูล อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อถวายเป็นไตรรัตนบูชา

แสวงธรรมที่เขาเหมน นครศรีธรรมราช



สวัสดีครับท่านผู้เจริญธรรมทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งครับ ในครั้งนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์การออกเดินทางไปแสวงหาความสงบของผมในครั้งนี้ผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังเทือกเขาหลวง โดยมุ่งตรงไปยังเขาเหมน ดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และลี้ลับเป็นอย่างมากที่หนึ่ง โดยผมได้ออกเดินทางไปยังที่ ตำบลนาหลวงเสน อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ สภาพส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบชื้นค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และมี
ความหลากหลายทั้งพันธ์พืชและสัตว์ป่า เมื่อผมได้เดินทางมาถึงยังพื้นที่เขาแห่งนี้เราได้นัดพรานป่าผู้นำทางให้กับทางกระผมเพราะสถานที่แห่งนี้ผมไม่สามารถจะเดินขึ้นไปเองได้เพราะความที่เป็นป่าดิบชื้นมากสัตว์ป่าหลากสายพันธ์ประกอบกับหุบเขามีความสลับซับซ้อนจึงมิสามารถที่จะอยู่ดี ๆ จะลุยไปเองเหมือนสถานที่ผ่าน ๆ มา พรานป่าได้ถามกับเราว่าจะไปทำอะไรกันเราก็บอกว่าเราจะไปปฎิบัติธรรมอันเป็นที่สงบ ท่านพรานก็บอกเราว่าที่นั้นไม่ธรรมดานะ เพราะหลายคนขึ้นไปแม้แต่ชาวบ้านหรือพรานป่าเองก็ไม่ได้กลับมาหลายต่อหลายคนแล้ว กระผมก็ยังยืนยันว่าเราอยากขึ้นไปเพราะเรามีหน้าที่ครูบาอาจารย์มอบหมายเราไว้ พรานป่าพาเราเดินลัดเลาะไปตามผืนป่าเขาค่อย ๆ สูงขึ้น ระหว่างทางผมได้จับใบไม้ใบนึงผมมีความรู้สึกว่าผมได้ยินเสียงลูกไก่ร้อง ผมจึงสอบถามพรานป่าว่าได้ยินเสียงลูกไก่ไหม พรานตอบสวนผมกลับมาทันทีว่าพี่อย่าล้อเล่นนะผมรู้ว่าพี่หมายถึงอะไร พรานบอกว่างูจงอางใช่ไหมไม่เอาเข้าป่านี้อย่าพูดถึงเลยไปกันต่อดีกว่า จากนั้นเราเดินเท้ากันต่อมาได้ประมาณ 4 ชั่วโมง พี่คนนึงที่ขอติดตามผมไปด้วยนั้นเกิดอาการบาดเจ็บที่ขาและแขนมากขึ้นจนไปต่อไม่ไหว เพราะไต่เขามาทั้งล้มลุกคลุกคลานมาจนบาดแผลเต็มตัว ในขณะนั้นผมจึงตัดสินใจบอกพรานป่าว่าเราคงไปไม่ถึงยอดเขาแล้วมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นอีกไหม พรานป่าบอกมีแต่ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าไปหรอก ผมจึงถามว่าทำไมพรานป่านิ่งไม่ตอบ ก่อนจะเอ๋ยว่าเขากลัวอาถรรพณ์ ผมก็ว่านำทางไปเลยและเราจะได้พักกัน กระผมได้เดินทางมาอีกประมาณ 30 นาทีก็ถึงสถานที่นี้เป็นน้ำตกธรรมชาติสวยงามมากอยู่กลางป่าลึกไม่มีผู้คนเลย ผมก็ถามพรานป่าอีกว่าน้ำตกนี้ชื่อว่าอะไรสวยขนานนี้และกล้วยไม้ออกดอกสวยงาม แต่ทำไมไม่มีใครมาเที่ยวหรือเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสบรรยากาศบ้าง พรานป่าตอบผมว่าชื่อน้ำตกหนานปลิว 1 แต่มีชื่อคล้ายกันนะแต่ที่นี่ศักดิ์สิทธิ์อาถรรพณ์มากไม่มีใครกล้ามาหรอกอยู่ไม่ได้ มีทั้งน้ำป่าไหลบากสัตว์ป่าและสิ่งลี้ลับก็มากคนเขากลัวไม่กล้าเฉียดมาหรอก และถ้าไม่ใช่พี่ผมก็ไม่พามาหรอกผมกลัวพรานป่ากล่าวบอกผมอย่างนั้น เมื่อผมได้รับฟังดังนั้นผมก็ได้จัดการนำของออกมาทำพิธีไหว้ถวายอาหารคาวหวาน ดอกไม้ หมากพลู มวลยา แด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักษ์รักษาสถานที่แห่งนี้ ตามอัตตาภาพที่เราจะแบกมาไหว เมื่อทำพิธีเสร็จผมก็นั่งผ่อนคลายสบายกับธรรมชาติให้ใจสบายๆสักนิด และจึงทำการนั่งสมาธิบริเวณหน้าผาของน้ำตกผมนั่งไปนานแค่ไหนไม่รู้แต่รู้ว่าการทำสมาธิดีมากเงียบสงบเย็นสบายเข้ากรรมฐานได้ดีมาก และเมื่อจิตเริ่มผ่อนคลายออกจากสมาธิแล้วผมก็ออกมานั่งพักและสนทนาพร้อมกับจัดการอาหารมื้อเช้าที่มากินกันตอนบ่าย ๆ เราได้เติมพลังกายกันเรียบร้อยแล้วทางคณะผมได้ผ่อนคลายกันตามอัทธยาศัย ผมเองก็นั่งพักแช่เท้าในน้ำตก และให้อาหารเข้าที่แล้วก็จัดการหาพื้นที่อับสงบนั่งสมาธิเจริญภาวนาแผ่เมตตาต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง พอจิตผ่อนคลายออกมา ก็เห็นฟ้าคลื้มฝนแล้ว พรานป่าเดินมาหาผมบอกว่าพี่ฝนจะตกแล้วหาที่หลบกันดีกว่าที่นี่น้ำป่าแรงครับ และผมพาใครเข้ามาทีไรเจอฝนกะน้ำป่าทุกที  กระผมจึงบอกว่ายังไม่น่าตกนะขอเวลาพี่อีกสักหน่อยพี่อยากขึ้นไปที่หน้าผา ทันใดนั้นทีมงานผมได้ยินก็บอกผมว่าพี่เดี๋ยวผมไปด้วย เราจึงเดินข้ามฝากน้ำตกไปยังอีกฝั่งหนึ่งซึ่งมีโขดหินเรียงรายอยู่มากมาย แต่ละก้อนเหมือนเป็นที่นั่งของใครสักอย่างความรู้สึกผมบอกเช่นนั้น แต่สหายธรรมผมได้ไปจัดเตรียมที่นั่งให้และบอกว่าพี่นั่งตรงนี้ไหมแต่ในความรู้สึกผมไม่อยากไปนั่งบริเวณนั้น แต่สหายธรรมก็เรียกผมอีกเป็นครั้งที่ 3 ผมจึงไปและหยุดยืนสนทนากับสหายธรรมที่บริเวณนั้นอยู่อีกสักนิดเพราะในใจยังไม่อยากนั่งบริเวณนั้น และหลังจากยืนสนทนากันอีกนิดและพรานพร้อมพี่ที่บาดเจ็บก็เดินตามมาดูแลสนทนาอยู่ใกล้ๆ และได้เวลาพอสมควรผมจึงบอกว่าไปนั่งสมาธิกันเถิดทันทีที่สิ้นเสียงผมทันใดนั้นก็มี งูจงอาง หรือที่ชาวบ้านท้องถิ่นเรียกว่า งูบองหลา โผล่ขึ้นมาที่หินข้างลำตัวผมพร้อมกับส่งเสียงขู่ แต่ ณ เวลานั้นผมไม่เห็นแต่น้องที่อยู่ห่างจากผมประมาณ 6 ก้าวเห็นและตะโกนว่าพี่ระวังผมก็หันไปดูเห็นงูจงอางป่าขนาดใหญ่พร้อมเสียงขู่และกำลังชูขึ้นสูงประมาณเอวผมได้ ความยาวประมาณ 5 เมตรได้ ผมกระโดดบิดตัวหันไปประจันหน้ากะงูจงอางห่างกันเพียงแค่ก้าวเดียว ณ เวลานั้นผมหนีหรือหันหลังให้เค้าไม่ได้แล้วเพราะงูกำลังโยกหัวเพื่อจะฉกผม แต่ผมก็มีสติพอที่จะอยู่นิ่งและจ้องตากับเค้า ดวงตาของงูจงอางนี้ดุมากสีเหลืองออกส้มเลยดวงตาจ้องมาที่ผมเขมงเลยผมก็จ้องเค้า ต่างคนต่างจ้องทั้งคนทั้งงูจงอาง ในจิตคิดเพียงแต่ว่าเรามาบริสุทธิ์มาดีท่านก็อยู่ของท่านเราก็อยู่ของเรา ถ้าบริเวณนี้เป็นที่ท่านเราไม่เราก็จะไป ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดเค้าค่อยๆลดหัวเค้าลงแล้วนอนขดตัวลงที่เดิมแบบนิ่ง ผมเห็นแบบนั้นจึงบอกเพื่อนกับพรานป่าที่ถอยไปอยู่ซะห่างเลย ว่ามีกล้องกันไหมถ่ายรูปๆด่วนเพราะเรานานๆจะเจอแบบใกล้ชิดขนานนี้ แต่ในว่าใจรอดตายแล้วเราเพราะกว่าจะออกจากป่าอีก 4 ชั่วโมงกว่าๆจะถึงโรงพยาบาลตายก่อน กระผมจึงบอกสมาชิกให้รีบถอยตัวออกห่างและข้ามฝากของน้ำตกมาอีกฝั่งนึ่งทันที ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจพร้อมสงสัยกันว่าทำไมงูจงอางถึงไม่ฉกกัดผม เพราะโดยปกติสัญชาตญาณของงูจงอางถ้าอยู่ใกล้ขนาดนี้เพียงก้าวเดียวต้องถูกกัดแล้ว พรานป่าถามผมพี่มีของดีอะไรงูจงอางถึงไม่ทำร้าย ผมตอบทันทีพี่ไม่มีอะไรน้องนอกจากใจบริสุทธิ์เจตนาที่ดีเท่านั้น แต่ก็ยังพากันงงอยู่ว่ารอดมาได้ไง พรานก็พูดขึ้นมาว่าพี่กลับกันเถอะผมว่าจะมีอีกหลายตัวบริเวณนี้ และเวลาจะใกล้ค่ำแล้วไม่ต้องค้างที่นี่แล้วออกไปพื้นล่างกันเถอะผมพิจารณาแล้วก็เห็นสมควรว่าจะต้องออกเพราะเรามีคนเจ็บด้วย จึงบอกว่าไปกลับไปคุยกันพื้นล่างดีกว่า พรานป่าผมก็ดีเหลือเกินเจองูจงอางป่าทีเดียวพาออกจากป่าผิดๆถูกๆเลย แต่เราก็รีบเดินกันออกมาเพราะเวลาใกล้จะค่ำเต็มทีแล้วและใช้เวลาเดินออกจากป่าอีกกว่าเราจะออกมายังจุดชายป่าที่เราพักกันก็ค่ำมืดแล้วเวลาประมาณทุ่มครึ่งเกือบ 2 ทุ่มได้ คืนนั้นเราก็นั่งสนทนากันถึงเรื่องที่ประสบพบเจอกัน และน้องพรานป่าเราก็นึงขึ้นมาได้ว่าใกล้น้ำตกนั้นมีถ้ำอยู่และภายในถ้ำนั้นชาวบ้านเล่าขานกันว่ามีพญางูจงอางขนาดใหญ่ลำตัวเท่าเสาไฟฟ้าอยู่และจะออกมาเล่นน้ำตกเป็นประจำ ที่เราพบนี้อาจจะเป็นบริวารที่มาเคลียร์ทางให้ก่อนท่านพญาจงอางจะมาลงเล่นน้ำก็ได้ พรานป่ากล่าวเช่นนั้น แหมผมนึกในใจทำไมเพิ่งมานึกได้ตูเกือบตาย แถมยังเล่าอีกว่าก่อนหน้านี้มีพรานป่าชาวบ้านเพิ่งหายตัวไปลึกลับเมื่อ ต.ค 57 จนถึงปัจจุบันยังหาไม่เจอ (แต่หลังจากผมออกมาได้คืนนึงรุ่งเช้าก็เจอศพพรานป่าผู้นี้ และลงหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ฉบับวันที่ 26 ม.ค.58 นี้ด้วย) และเมื่อเราสนทนาธรรมและปฎิบัติธรรมกันได้จนดึกประมาณตี 1 ก็แยกย้ายพักผ่อนเพื่อพรุ่งนี้เช้าเราจะไปถ้ำแก้วสุรกานต์ ที่เขาหลวงกันต่อ ก็ไว้ครั้งหน้าผมจะมาเล่าประสบการณ์ที่ถ้ำแก้วสุรกานต์นี้ให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับมีสิ่งแปลกๆดีเกิดขึ้นครับ //// อัครพล